เรื่อง เล่า สุด หลอน

หัวข้อ

เรื่อง เล่า สุด หลอน เรื่องเล่ามหาลัยสยองขวัญ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : ลิฟท์แดง

เรื่อง เล่า สุด หลอน เรื่องลิฟท์แดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นี้มีเรื่องเล่าว่า เมื่อตอนเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ พวกทหารได้บุกเข้ามาใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พวกนักศึกษาต่างหลบหนีเข้ามาในลิฟท์ตัวหนึ่ง พอลิฟท์ตัวนี้เปิดพวกทหารก็กระหน่ำยิงทุกคนเสียชีวิตหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์ ต่อมาทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้บูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทำความสะอาดยังไงคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ล้างไม่ออก จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง ศาล ใน ห้องน้ำ หญิง

มีเรื่องเล่าตามมาว่าหลังจากที่ลิฟท์ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งมาขึ้นลิฟท์ตามลำพัง แต่เมื่อมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง หากแต่มีผู้โดยสารอยู่ด้วยมากมาย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายครั้งหลายหนที่เหล่านักศึกษา อาจารย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ลิฟท์แดงตัวนี้เข้า ทำให้ทาง มหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนตัวลิฟท์ใหม่ แต่ว่าประตูลิฟท์แดงที่ถูกถอดออกไปตอนนี้นี้ยังตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 ตึกคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง : ศาลในห้องน้ำหญิง

เรื่อง เล่า สุด หลอน เป็นเรื่องเล่าของศาลเพียงตาที่ติดอยู่บนผนังของห้องน้ำ ศาลที่ว่านี้เดิมตั้งไว้ที่คณะวิศวะฯ ตึกเอ ชั้น 5 โดยจะมีดอกไม้ธูปเทียนและน้ำแดงวางไว้อยู่เสมอ มีเรื่องเล่าว่ามีนักศึกษาสาว คณะสภาปัตย์ อกหักจากหนุ่มวิศวะฯ จึงไปผูกคอตายที่ห้องน้ำดังกล่าวนี้ และเพื่อให้วิญญาณของเธอสงบจึงมีการสร้างศาลเพียงตาเอาไว้ หลังจากนั้นมาก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องเล่าของศาลในห้องน้ำก็มีหลายเรื่องที่ดังๆ ก็มี บริเวณที่ชั้น 5 มักจะได้ยินเสียงแปลกๆ หรือเห็นเงาคนเดินอยู่ แต่พอดูจริงๆ ก็ไม่มีใครเลย หรือมีคนเห็นนางรำ รำออกมาจากในศาล หรือมีคนเคยเล่าว่าหากใครไปเข้าห้องน้ำตอนดึกๆ จะเหมือนมีคนเข้าห้องน้ำห้องข้างๆ ด้วย หรือไม่ก็ถ้าไปส่องกระจกในห้องน้ำห้องนี้ก็จะเห็นผู้หญิงคนที่เค้าผูกคอตายอยู่ด้านหลัง แต่ตอนนี้ศาลดังกล่าวได้ย้ายลงมาอยู่ด้านหลังคณะวิศวะฯ ตึกเอ แล้ว เป็นศาลใหญ่โต ชื่อศาลว่า “ศาลเจ้าแม่ศรีแพรทอง เรื่อง ผี มหา ลัย ธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ : ป๊อก…ป๊อก…ครืด…

เรื่องผีอันดับหนึ่งของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่สถานที่เกิดคือ หอหญิง ในสมัยที่ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนยังเป็นลูกรัง เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของ หอหญิงเจ็ด ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกัน มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำ รูมเมทชวนไปทานข้าวแต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหว พอรูมเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบายด้วยความเป็นห่วงจึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองแล้วจะห่อมาฝาก เพื่อนคนที่ไม่สบายก็ฝากซื้อราดหน้า(หรืออะไรซักอย่าง)

หลังจากที่เพื่อนออกไป รูมเมทคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหวเพราะไข้ขึ้นจึงนอน ตอนนอนอยู่นั้นสลึมสลือ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้วทำไมเพื่อนยังไม่กลับมาซะที ซักพักได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่างจากทางบันได ป๊อก ป๊อก ป๊อก เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามาจากทางบันไดเรื่อยๆ เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ แล้วเสียงก็เปลี่ยนเป็น ครืด ครืด เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรซักอย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง นักศึกษาหญิงเริ่มเอะใจและมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้วแต่ยังเงียบ อึดใจนึงก็มีเสียงเคาะห้อง ก๊อก ก๊อก ก๊อก แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่เพื่อนแน่แล้ว ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่ พอเห็นห่อลาดหน้าก็งง ว่าเพื่อนอยู่ไหนทำไมต้องเอามาแขวน ทำไมมีแต่รอยเปียกน้ำเป็นทางจากบันได ลิ ฟ ท์ แดง ม ธรรมศาสตร์

รุ่งเช้ามีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืนตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพสภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาดหลังจากทานข้าวเสร็จ ลักษณะเสียงที่ได้ยิน สันนิษฐานได้ว่าเพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุง แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันได ลากตัวเองขึ้นมาเป็นเสียง ป๊อก ป๊อก เสียง ครืด คือเสียงลากตัวเองจากบันไดมาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกันหลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่า แต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นก็ได้ยินเสียงดังกล่าวเช่นกัน

มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ : เรือนนางสนม

เชื่อกันว่ามหาวิทยาลัยใดที่มีที่ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณเขตวังเก่า หรือเคยเป็นวังมาก่อน ก็จะมีเรื่องราวกล่าวขานมานาน และยิ่งทวีความหลอนเข้าไปอีก เพราะแสดงให้เห็นถึงความเก่าแก่และความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนั้น รวมถึงมหาวิทยาลัยศิลปากร เขตพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่เดิมของอาณาบริเวณเขตพระราชฐานพระราชวังสนามจันทร์ เป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และยังเป็นอีกสถานที่ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าผีดุเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

เด็กศิลปากรเองคงรู้ความเป็นมาของเรื่องเล่านี้ดี เพราะไม่ว่ารุ่นไหนก็ไม่พลาดที่จะเล่าสู่ให้รุ่นน้องฟังแน่ๆ สำหรับเรื่องเล่า “เรือนนางสนม” ซึ่งอยู่ด้านหลังคณะวิทยาศาสตร์ เป็นเรือนไม้สถาปัตยกรรมยุคเก่า ยกใต้ถุนขึ้นสูงมีอายุเก่าแก่มาก น่าจะมีความเก่าแก่ในช่วงสมัย ร.5 และมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาเยอะมากว่า กลางดึกหากนักศึกษาคนไหนปั่นจักรยานผ่านเรือนไม้ดังกล่าวก็จะเห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยมีเล็บยาวปรากฏตัวให้เห็น บ้างก็เล่าว่าปั่นๆ จักรยานไปจะรู้สึกว่ารถหนักขึ้น หันหลังไปจะเห็นมีผู้หญิงชุดไทยไม่มีหน้านั่งซ้อนหลังอยู่ แถมไม่นั่งอย่างเดียว เอาเล็บยาวเฟื้อยลากพื้นไปด้วยอีกต่างหาก และเหตุผลที่เรือนนางสนมหลังนี้ปัจจุบันต้องปิดหน้าต่างไปในที่สุดก็เพราะว่า คนที่ผ่านไปผ่านมามักจะเห็นผู้หญิงรำฟ้อนอยู่ในตัวเรือนไทยผ่านช่องหน้าต่างไม้ของเรือนหลังนั้นนั่นเอง

มหาวิทยาลัยรังสิต : ห้องน้ำหญิง ตึก 5 (วิศวะฯ)

มหาวิทยาลัยรังสิต นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่ามีผีเยอะที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็ว่าได้ จากข้อมูลที่ผู้มีสัมผัสทางวิญญาณท่านหนึ่งได้เคยอธิบายเอาไว้ บริเวณเมืองเอก (ชื่อสถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรังสิต) มีลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ นัยว่าไม่ดีตามหลักฮวงจุ้ย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยบ้านถูกปล่อยทิ้งร้างไร้ผู้ดูแล (เช่นบ้านร้าง 9 หลัง และบ้านร้างบันไดแดงสุดโด่งดังของคนชอบลองของทั้งหลาย) ซึ่งผู้มีสัมผัสทางวิญญาณท่านนี้ก็ได้เล่าว่าบ้านร้างเหล่านี้เอง ที่จะเรียกพวกภูติ ผี สัมภเวสีเร่ร่อนมาอยู่อาศัย กลับมาเรื่องสยองของมหาวิทยาลัยรังสิตกันต่อ บอกได้เลยว่าเยอะกว่าที่ไหนๆเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นแค่ตำนาน แต่มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เมื่อนักศึกษาหญิงคนหนึ่งได้ถูกแฟนหนุ่มใหญ่ลากออกมาจากห้องสอบ (สาเหตุคงเรื่องหึงหวง) ฝ่ายชายลากฝ่ายหญิงเข้าไปเคลียร์กันในห้องน้ำ มีเสียงทะเลาะโวยวายกันได้สักพัก ฝ่ายชายก็เอาปืนยิงฝ่ายหญิงก่อนที่จะยิงตัวเองตายตาม ช่วงเกิดเรื่องใหม่ๆ นี่บอกเลยว่าหลอนโคตร มีคนได้ยินเสียงทะเลาะกันตามด้วยเสียงปืนเวลาเดิมๆ แทบทุกวัน (เค้าว่าคนที่ฆ่าตัวตายจะต้องติดอยู่ในลูป ทำเหตุการณ์ซ้ำตอนที่ตายเหมือนเดิมไปเรื่อย ๆ) ห้องน้ำห้องที่ว่าปกติก็น่ากลัวอยู่แล้ว ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่ง พอเกินเรื่องก็มีสายสิญจน์มาพันรอบๆ อีก บอกเลยว่าสยอง

 

บทความที่เกี่ยวข้อง